วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554


โรคริดสีดวงทวาร
(Hemorrhoid)



ริดสีดวง 
?? มาจากไหน ??
 
โรคนี้เกิดจากการโตขึ้นของกลุ่มหลอดเลือดและเนื้อเยื่อบริเวณลำไส้ตรง
 เมื่อหลอดเลือดดำนี้โป่งพองขึ้นมีหัวซึ่งจะเรียกว่า หัวริดสีดวง
ซึ่งอาจพบเพียงหัว เดียวหรือหลายหัวก็ได้
เวลามีอุจจาระผ่านจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง อาจมีเลือดออก
คันบริเวณทวารหนัก หรือปวดเวลาขับถ่าย







** สาเหตุที่เป็น **

เนื่องจากมีภาวะความดันในหลอดเลือดดำสูง
เนื่องจากสาเหตุต่างๆเช่น ท้องผูก การนั่งนานๆ 
ตั้งครรภ์ น้ำหนักมากการทานอาหารที่มีกากน้อย ไอเรื้อรัง เป็นต้นนอกจากนี้ยังพบอีกว่า
โรคในช่องท้อง เช่น ตับแข็ง
ก้อนเนื้องอกในช่องท้อง 
มะเร็งลำไส้ใหญ่ ต่อมลูกหมากโต
ก็มีผลกระทบต่อหลอดเลือดดำที่ทวารหนักด้วย






--  อาการของผู้ที่เป็นริดสีดวงทวาร  --

-      ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสดๆ ไม่มีมูกเลือดป่น 

-      ขณะถ่ายอุจจาระจะมีก้อนยื่นออกมา

-      เจ็บและคันบริเวณทวารหนัก




 ++..ประเภทของริดสีดวงทวาร..++

1.   ริดสีดวงทวารภายนอก(External Hemorrhoids)
เป็นการขยายของหลอดเลือดดำ Inferior Hemorrhoids 
ทำให้เกิดลักษณะเป็นก้อนยื่นออกมาภายนอก ส่วนที่คลุมก้อนจะเป็นผิวหนัง
ริดสีดวงประเภทนี้มักมีอาการคันและเจ็บมากกว่าริดสีดวงทวารภายใน 
และหลังจากอาการหายไปแล้วอาจมีติ่งผิวหนังเหลืออยู่

2.  ริดสีดวงทวารภายใน(Internal Hemorrhoids) 
เป็นการขยายของหลอดเลือดดำ Superior Hemorrhoid 


ริดสีดวงทวารภายในแบ่งออกเป็นระยะต่างๆ ดังนี้ 

ระยะที่ 1     ไม่มีก้อนยื่นออกมานอกทวารหนัก 
ระยะที่ 2      มีก้อนยื่นออกมาขณะอุจจาระและ
 หดกลับเข้าไปได้เอง
     ระยะที่ 3     มีก้อนยื่นออกมาขณะอุจจาระ 
                       แต่ไม่หดกลับเข้าไป
                       ต้องใช้มือช่วยดันเข้าไป
     ระยะที่ 4      มีก้อนยื่นออกมาและไม่สามารถ
                     ใช้มือดันเข้าไปได้

3.      ริดสีดวงทวารแบบผสม (Mixed Hemorrhoids
เป็นประเภทที่ประกอบไปด้วยทั้งริดสีดวงทวารภายในและริดสีดวงทวารภายนอก





 ^ // ประเภทของริดสีดวงทวาร // ^

1.               รับประทานอาหารที่มีกากใยมากๆ
2.      หลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนนานๆ
3.      ถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลา
4.      หลีกเลี่ยงการเบ่งอุจจาระ
5.      สามารถประคบเย็นได้เมื่อเริ่มต้นมีอาการปวด
6.      หลีกเลี่ยงการใช้ยาระบายที่ระคายเคือง
7.      นั่งแช่ใน hot sit baths วันละ 1-2 ครั้ง นาน 20-30 นาที
8.      ซับทวารหนักเบาๆแทนการเช็ดถู
9.      ไม่ถ่ายอุจจาระนานเกินไป
10.     ควบคุมอาการท้องเสีย
11.    ถ้ามีเลือดออกนานเกิน 1 สัปดาห์ หรือผู้ป่วยอายุมากกว่า 40 ปี
             ควรแนะนำให้ไปพบแพทย์  เพราะอาจมีโรคอื่นร่วมด้วย



ในปัจจุบันมีคนเป็นโรคริดสีดวงจำนวนไม่น้อยเเต่ 
ไม่อยากรักษาเพราะคิดว่าไม่ร้ายเเรง
ห้องผ่าตัด รพ.รร.จปร. 
ก็อยากจะเเนะนำโรคริดสีดวงเพื่อให้เป็นประโยชน์เเละเเนะนำว่า
 " ..พบเเพทย์ เเต่เเรกนะค่ะถ้ารู้ว่าเป็น อย่าปล่อยปะละเลยนะจร้าาา.. "



ด้วยความปราถนาจาก ห้องผ่าตัด รพ.รร.จปร. 
^_^



 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น